Sunday 19 August 2012

ประโยชน์และโทษจากการกินหวาน


รูปประกอบจากอินเตอร์เนท

ประเทศไทย เรานั้นมีอาหาร รวมทั้ง ขนมหวานมากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ทองหยิบ , ทองหยอด , ฝอยทอง และอื่นๆ อีกมากมาย และในขนมแทบทุกชนิด มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบหลัก เพื่อให้ความหวานชื่นใจกับผู้บริโภค แต่เรารู้กันบ้างหรือเปล่า ว่าความหวานช่วยให้ประโยชน์อะไรกับเรา และถ้ากินหวานมากเกินไปจะเป็นผลร้ายอะไรกับเราบ้างหรือเปล่า

ประโยชน์จากการกินหวาน

  • ให้พลังงานสูง น้ำตาลให้สารคาร์โบไฮเดรต ที่ให้พลังงานสูง (4 กิโลแคลลอรี่ ต่อ 1 กรัม) และถ้าบริโภคมากเกินจะไปสะสมเป็นไขมัน เพื่อเป็นพลังงานให้เราเวลาขาดแคลนได้
  • แก้โรคท้องร่วงได้ ใช้น้ำตาลผสมกับเกลือ สามารถช่วยให้ร่างกายได้รับการฟื้นฟูดีขึ้น ทำให้มีกำลังวังชา มากขึ้น
  • อาหารมีรสชาดกลมกล่อม น้ำตาลเป็นเครื่องเทศหนึ่งที่ทำให้อาหารมีรสชาดกลมกล่อม สังเกตได้ว่าพ่อค้าแม่ค้ามักผสมน้ำตาลในกับข้าวหลากหลายชนิด ทำให้อาหารมีรสชาดดีขึ้นอร่อยขึ้น


โทษจากการกินหวาน / ภัยจากการกินหวาน 

  • โรคอ้วน เป็นผลมาจากการได้รับพลังงานจากน้ำตาลมากเกินไป
  • เบาหวาน เมื่อได้รับน้ำตาลมากเกินไป ร่างกายก็จะหลั่งสารอินซูลินมากขึ้น เพื่อกำจัดน้ำตาล เมื่อบริโภคน้ำตาลเกินเป็นระยะเวลานานๆ ร่างกายก็จะเกิดการดื้ออินซูลิน ทำให้เกิดโรคเบาหวานได้
  • โรคความดัน ซึ่งจะเกิดควบคู่กับเบาหวาน

แต่บางคนเป็นเบาหวานกลัวความหวานไปเลย ถึงขนาดไม่กินผลไม้ไปด้วย ซึ่งเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้อง เพราะว่าในผลไม้ก็มี วิตามิน และ แร่ธาตุต่างๆ ที่สำคัญ แต่ถ้ากังวลมาก อาจเลือกผลไม้ที่มีความหวานน้อยหน่อยก็ได้




ผมมีข้อมูลจาก มาจาก  The American Heart Association (AHA)  ประเทศอเมริกา

AHA แนะนำว่า 

  • สำหรับผู้หญิง บริโภคน้ำตาลไม่เกิน 25 กรัม (6 ช้อนชา) ใน 1 วัน
  • สำหรับผู้ชาย บริโภคน้ำตาลไม่เกิน 37.5 กรัม (9 ช้อนชา) ใน 1 วัน

คิดดูง่ายๆ นะครับ แค่น้ำอัดลมกระป๋อง 1 กระป๋อง ก็มีปริมาณน้ำตาลมากกว่าที่ AHA  แนะนำแล้ว

ตรวจสอบน้ำตาลจากอาหาร

  • ในเครื่องดื่ม,ขนมหรืออาหารที่วางขายในซุปเปอร์มาเก็ตแต่ละชนิดจะมีฉลากซึ่งระบุ ปริมาณของส่วนผสมต่างๆ รวมถึงน้ำตาลด้วย เราใช้ฉลากนี้ในการพิจารณาว่าอาหารนี้เหมาะสมกับเราหรือไม่
  • ตรวจสอบจากตารางโดยประมาณ
    • น้ำตาลทราย  1 ช้อนชา                                  น้ำหนักประมาณ            4 กรัม
    • น้ำตาลทราย  1 ช้อนกินข้าว                           น้ำหนักประมาณ        12 กรัม
    • น้ำเชื่อม         1 ช้อนกินข้าว                           มีน้ำตาลทราย              12 กรัม
    • น้ำอัดลม        1 กระป๋อง (325 ซีซี.)                มีน้ำตาลทราย              60 กรัม
    • กาแฟเย็น/ชาเย็น ( 480 ซีซี.)                           มีน้ำตาลทราย              28 กรัม
    • ขนมหวาน      1 ชิ้น ขนาด 5x5x4 ซม              มีน้ำตาลทราย              12 กรัม
    • ขนมหวาน 1 ถ้วยแบบไม่มีกะทิ (150 กรัม)       มีน้ำตาลทราย              15 กรัม
    • ขนมหวาน 1 ถ้วย แบบมีกะทิ(150 กรัม)           มีน้ำตาลทราย              24 กรัม


ในอาหารการกินประจำวันจะมีปริมาณของน้ำตาลที่ได้รับจากการกินข้าวหรือแป้ง (ข้าวหรือแป้งจะถูกย่อยสลายกลายเป็นน้ำตาล)  และน้ำตาลจะให้แต่ พลังงานอย่างเดียว โดยไม่มีวิตามินหรือสารอาหารอื่นๆ เลย เมื่อได้รับพลังงานจากน้ำตาลเข้าไปเป็นจำนวนมากๆ จึงมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอื่นๆ ตามมา

สารให้ความหวานแทนน้ำตาล

        หลายคนคงอยากกินหวาน แต่ไม่อยากได้พลังงานมากขนาดนั้น ปัจจุบันนี้จึงมีทางเลือกใหม่ๆ ที่ไม่ต้องใช้น้ำตาล แต่เป็นการใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล เช่น ฟินิลคีโตนูเรีย ขัณฑสกร แอสปาเทม

ดูเพิ่มเติม : สารให้ความหวานแทนน้ำตาล